สต๊อกสินค้าเหล็กในจีนยังอยู่ในระดับสูง ท่ามกลางอุปสงค์ที่อ่อนตัว

13 พฤศจิกายน 2568
สต๊อกสินค้าเหล็กในจีนยังอยู่ในระดับสูง ท่ามกลางอุปสงค์ที่อ่อนตัว

ข้อมูลจากสมาคมเหล็กและเหล็กกล้าจีน (CISA) ระบุว่า ปริมาณสินค้าคงคลังเหล็กสำเร็จรูป (Finished steel) ในโรงงานและตลาดค้าส่งหลักรวมกัน ณ วันที่ 31 ตุลาคม อยู่ที่ 23.68 ล้านตัน ซึ่งแทบไม่เปลี่ยนแปลงจากในช่วงสิ้นเดือนกันยายน แต่เพิ่มขึ้น 14.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยเฉพาะสต๊อกเหล็กเส้น (rebar) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความต้องการเหล็กในภาคการก่อสร้าง ณ วันที่ 31 ตุลาคม เพิ่มขึ้นถึง 46.7% เมื่อกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 3.55 ล้านตัน

ขณะที่ สต๊อกสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อน (HRC) ซึ่งสะท้อนความต้องการเหล็กในภาคการผลิตและอุตสาหกรรม ณ วันที่ 31 ตุลาคม มีปริมาณอยู่ที่ 2.21 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 16.9% เมื่อกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามข้อมูลของ CISA

ผู้ค้าหลายรายในจีนระบุว่า ความต้องการเหล็กก่อสร้างยังคงถูกกดดันจากภาวะซบเซาของภาคอสังหาริมทรัพย์ ส่วนความต้องการเหล็กในภาคการผลิต แม้ยังอยู่ในระดับที่ดีแต่แนวโน้มในระยะสั้นการขยายตัวอาจมีจำกัด

แหล่งข่าวจากภาคการค้ารายหนึ่งกล่าวว่า “ผมหวังว่ารัฐบาลจะประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพในเดือนธันวาคม ระหว่างการประชุม Central Economic Work Conference เพื่อสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์และการบริโภคของประชาชน ซึ่งจะช่วยให้ตลาดเหล็กกลับมาฟื้นตัวได้บ้างอย่างน้อยในช่วงต้นปี 2026”

แหล่งข่าวอีกรายระบุเพิ่มเติมว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนยังคงแสดงสัญญาณชะลอตัว และแนวโน้มของอุปสงค์เหล็กในภาคส่วนนี้อาจยังคงลดลงต่อเนื่องไปจนถึง ปี 2026

ข้อมูลจากบริษัท China Index Holdings ผู้ให้บริการข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ของจีน ระบุว่า มูลค่าการขายบ้านใหม่ของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ 100 ราย รวมตั้งแต่ในช่วงเดือนมกราคม–ตุลาคม อยู่ที่ประมาณ 2.897 ล้านล้านหยวน (406.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ลดลง 16.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอัตราการลดลงได้เพิ่มขึ้นจาก 12.2% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี

ในขณะเดียวกัน ยอดขายปลีกของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลภายในประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดการบริโภคสินค้าอุปโภคบริโภค ในเดือนตุลาคม ลดลง 0.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 2.242 ล้านคัน อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนมกราคม–ตุลาคม ยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลโดยรวมยังคงเพิ่มขึ้น 7.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 19.25 ล้านคัน ตามข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลจีน (China Passenger Car Association : CPCA)

แหล่งข่าวจากโรงงานเหล็กรายหนึ่งระบุว่า “ในปัจจุบันการบริโภครถยนต์ในประเทศยังคงแข็งแกร่ง แต่เนื่องจากยอดขาย ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว อยู่ในระดับสูงมากจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ปีนี้อาจเป็นเรื่องยากที่ยอดขายรถยนต์จะเติบโตเมื่อเทียบกับปีก่อน” เขายังเสริมว่า หากไม่มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ ในปี 2026 ยอดขายสินค้าบริโภคภายในประเทศ เช่น รถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า อาจมีการเติบโตที่จำกัด

แหล่งข่าวจากโรงงานอีกแห่งกล่าวว่า การผลิตเหล็กของจีนมีแนวโน้มจะปรับตัวลดลงต่อไป ในช่วงเดือนพฤศจิกายน–ธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลชะลอตัวของอุตสาหกรรม แต่เนื่องจากอุปสงค์ปลายน้ำยังคงอ่อนแอ ราคาสินค้าเหล็กจึงอาจไม่ได้รับแรงหนุนจากการลดการผลิต และมีแนวโน้มเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบแคบ


แหล่งที่มา : S&P Global Commodity Insights

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.